นโยบายและข้อปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
เราคือใคร
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และ คนที่เกี่ยวข้อง เช่น พันธมิตร ตัวแทน ผู้แทน ที่ปรึกษา พนักงาน เจ้าหน้าที่ และกรรมการ ที่มีอยู่ทั้งหมด (รวมจะเรียกว่า “สำนักงาน”,"CEA", "เรา" หรือ "เรา") ให้บริการที่ช่วยเหลือผู้คนในการสร้างโครงการสร้างสรรค์ (บริการของเรา) บริการหลักของเราคือแพลตฟอร์มเพื่อระดมทุนสำหรับโครงการสร้างสรรค์
นโยบายนี้ใช้อย่างไร
นโยบายนี้อธิบายข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากคุณ วิธีการใช้ข้อมูลนั้น และเหตุผลทางกฎหมายที่เราดำเนินการ นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงข้อมูลนั้นว่าอาจถูกเผยแพร่และใช้อย่างไร รวมถึงสิทธิและตัวเลือกของคุณเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณให้เราก่อนที่คุณจะใช้หรือส่งข้อมูลใด ๆ ผ่านบริการของ CEA โปรดตรวจสอบนโยบายนี้อย่างรอบคอบ
เพื่อให้การดำเนินงานต่าง ๆ ของสำนักงานเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สำนักงานขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคล (Privacy Policy) นี้ เนื่องจากนโยบายดังกล่าวอธิบายถึงวิธีปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้บริการ เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ เป็นต้น สำนักงานจึงประกาศนโยบายและข้อปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการของสำนักงาน ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม การสมัครสมาชิก การติดต่อเพื่อขอรับบริการต่าง ๆ ของสำนักงาน หรือแม้แต่การให้ข้อมูลในการจัดทำแบบสอบถาม การเข้าร่วมสัมมนา และอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ของผู้ให้ข้อมูล
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ของสำนักงาน ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ รวมถึงการเก็บรวมรวม การใช้ การจัดเก็บ การเปิดเผย และการลบข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
1. การเคารพสิทธิในความเป็นส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
1.1 สำนักงานเคารพและให้ความสำคัญถึงสิทธิ ข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ สำนักงานตระหนักดีว่า ท่านในฐานะผู้ใช้บริการของสำนักงานย่อมมีความประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของสำนักงาน
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สำนักงานได้รับมา เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้า อายุ ที่อยู่ ชื่อหน่วยงาน เพศ การตั้งค่าบนระบบ การตั้งค่าความปลอดภัยในบัญชี ไอพีแอดแดรส คุกกี้ อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของท่านได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีคุณภาพ จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสำนักงานเท่านั้น และสำนักงานจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากท่านก่อน
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดและเท่าที่จำเป็น
ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่มีคุณภาพของท่าน สำนักงานจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือการให้บริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของสำนักงานเท่านั้น สำนักงานจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม และสำนักงานจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเกี่ยวกับลักษณะทางพันธุกรรม พฤติกรรมทางเพศ หรือข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่
1. เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดเป็นข้อยกเว้นเอาไว้
2. เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
3. เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านและผู้ใช้บริการท่านอื่น
4. เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
5. เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ
สำนักงานอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการของสำนักงานให้ดียิ่งขึ้น
3.ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวม
CEA เก็บรวบรวมข้อมูลในหลายวิธี ซึ่งรวมถึง:
• เมื่อผู้ใช้ให้ข้อมูลโดยตรงกับเรา (เมื่อตั้งค่าบัญชี)
• เมื่อเราเก็บรวบรวมข้อมูลจากคุณโดยอัตโนมัติ (เช่นจากเบราว์เซอร์ของคุณ); และ
• จากบุคคลที่สาม (เช่นผู้ให้บริการชำระเงินที่ได้รับความเชื่อถือจาก CEA)
เพื่อให้คุณสามารถสร้างบัญชีใน CEA และใช้บริการของเราได้ เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลบางประการ ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของคุณในบริการนั้น ๆ อาจรวมถึง
• ข้อมูลที่คุณให้โดยกรอกแบบฟอร์มใน CEA - ชื่อของคุณ อีเมลและที่อยู่จดหมาย หมายเลขโทรศัพท์ ประเทศที่อยู่อาศัย เข้าสู่ระบบ และรายละเอียดรหัสผ่าน เราอาจขอข้อมูลเหล่านี้หากคุณลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการ เข้าร่วมรับจดหมายข่าวของเรา กรอกแบบสำรวจ ส่งเนื้อหาให้กับ CEA หรือหากคุณติดต่อเรา
• ข้อมูลที่คุณให้เพื่อการยืนยันตัวตนเมื่อเปิดโครงการรวมถึงชื่อที่ตรงตามกฎหมาย ชื่อธุรกิจและเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสำหรับนิติบุคคลทางธุรกิจ และวันเกิด ในบางกรณี ผู้ประมวลผลการชำระเงินของเราอาจขอให้คุณส่งเอกสารยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย (เช่นหนังสือเดินทาง ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาลอื่น ๆ) ถึง CEA
• รายละเอียดของคำขอหรือธุรกรรมที่คุณทำผ่านบริการ CEA ร่วมงานกับบริษัทอื่น ๆ สำหรับการประมวลผลการชำระเงิน และข้อมูลการชำระเงินที่คุณส่งมาจะถูกเก็บรวบรวมและใช้โดยบริษัทเหล่านั้นตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขา CEA ไม่เก็บข้อมูลการชำระเงินของคุณนอกเหนือจากตัวเลขสี่หลักสุดท้ายของบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร (ตามที่เกี่ยวข้อง) วันที่หมดอายุ และประเทศซึ่งเราต้องการสำหรับวัตถุประสงค์ทางภาษี กฎระเบียบของรัฐบาล และวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย
• ข้อมูลที่เกี่ยวกับกิจกรรมของคุณบน CEA และการติดต่อกับเรา รวมถึงการใช้แอปพลิเคชันมือถือของเรา (เช่นที่อยู่ IP ประเภทของอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ และการกระทำของคุณบนเว็บไซต์);
• ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมและติดต่อกับเว็บไซต์ของเรา ในรูปแบบของการวิเคราะห์การจราจร รวมถึง Google Analytics, Google Maps และ Meta Pixel สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อป้องกันและปรับปรุงบริการของเราโปรดดูนโยบายคุกกี้ของเรา
• การสื่อสารของคุณถึง CEA (เช่นเมื่อคุณขอความช่วยเหลือ ส่งคำถามหรือความคิดเห็นหรือรายงานปัญหาให้เรา)
• ข้อมูลที่คุณส่งในแพลตฟอร์มของ CEA เช่น ความคิดเห็น ส่วนร่วมในการอภิปราย หรือข้อความถึงผู้ใช้งานคนอื่น
• ข้อมูลทางประชากร เช่น อายุ เพศ เพศสภาพ ความชอบทางเพศ เชื้อชาติและเผ่าพันธุ์
ซึ่งคุณสามารถนำส่งได้เพื่อช่วยให้ CEA สนับสนุนผู้สร้างและแสดงออกถึงความหลากหลายของประชากรในการวิจัยของเราอย่างเท่าเทียมกัน หมวดหมู่นี้รวมถึงข้อมูลที่อาจมีคุณสมบัติที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
คุณสามารถปฏิเสธการให้ข้อมูลแก่เราได้ แต่อาจทำให้ความสามารถในการลงทะเบียนบัญชีหรือใช้บริการของเราลดลง คุณสามารถตรวจสอบ เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลของคุณผ่านการตั้งค่าบัญชีของคุณได้
4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 สำนักงานเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อ
(1) เพื่อการดำเนินงานของสำนักงาน การศึกษา วิจัย การแก้ไขปัญหา วิเคราะห์ข้อมูล การทดสอบ และการจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของสำนักงาน
(2) เพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการ
(3) เพื่อตรวจสอบ / ยืนยันตัวบุคคล
(4) เพื่อรักษาความปลอดภัยต่อบัญชีผู้ใช้บริการ
(5) เพื่อแจ้งผู้ใช้บริการเกี่ยวกับข่าวสารและจดหมายข่าว
(6) เพื่อแจ้งผู้ใช้บริการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
(7) เพื่อให้ข้อมูลในการเข้าและใช้บริการเว็บไซต์ และ/หรือบริการอื่น ๆ
(8) เพื่อความปลอดภัย การตรวจสอบการบิดเบือน และการจัดการบัญชีผู้ใช้บริการ
(9) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยประเมินมูลค่าของผลงานหรือข้อมูลที่ท่านนำมาใช้บริการ
4.2 หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน
4.3 ในกรณีที่สำนักงานมีการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ ท่านมีสิทธิในการเลือกว่า จะให้สำนักงานเก็บรวบรวม จัดเก็บ ใช้ เปิดเผยหรือไม่ให้เก็บรวบรวม จัดเก็บ ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
4.4 เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน สำนักงานจึงจัดเก็บบันทึกข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์ (Log Files) ของท่านโดยระบบอัตโนมัติ โดยจัดเก็บข้อมูลต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
(1) หมายเลขไอพี (IP Address)
(2) วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ สำนักงานยังได้ใช้บริการของหน่วยงานภายนอกที่มีการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงการบันทึกการเข้าออกระบบให้บริการทางเว็บไซต์ตามที่กฎหมายกำหนดด้วย สำหรับกรณีที่สำนักงานใช้บริการหน่วยงานภายนอกในการให้บริการเว็บไซต์
4.5 สำนักงานมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางประการ โดยไม่จำเป็นจะต้องได้รับความยินยอมจากท่าน ด้วยเหตุผลทางกฎหมายหรือเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุผลหลายเหตุผลประกอบกันดังต่อไปนี้
(1) สำนักงานจะขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการ (ฐานความยินยอม) เพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน เช่น การขอความยินยอมเพื่อตอบแบบสอบถาม หรือขอความยินยอมเพื่อการเปิดเผยหรือส่งข้อมูลที่อ่อนไหวของผู้ใช้บริการ สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น แต่ในบางกรณีอาจพิจารณาว่าสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลอื่นที่เกี่ยวข้องและไม่ขัดหรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เดิม แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เดิม สำนักงานจะขอความยินยอมใหม่เพื่อการใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น
(2) การปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับบริการ (ฐานสัญญา) สำนักงานจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ที่มีอยู่ตามเงื่อนไขของการใช้บริการ ทั้งยังจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของผู้ใช้บริการในการทำงานร่วมกันกับบุคคลภายนอกในการให้บริการ หรือดำเนินกิจกรรมของ สำนักงาน เช่น กิจกรรมที่ดำเนินการโดยหน่วยงานราชการหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
(3) กรณีมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน (ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย) สำนักงานมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการวิเคราะห์สถิติ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ทำนองเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้อื่นด้วย เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเพื่อการพัฒนาบริการของระบบ เป็นต้น
(4) การปฏิบัติตามกฎหมาย (ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย) สำนักงานจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการประมวลผลข้อมูลเพื่อการติดตาม ตรวจสอบหรือเพื่อการส่งข้อมูลตามกฎหมายให้แก่หน่วยงานที่กำกับดูแล
4.6 สำนักงานจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
(1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และได้รับความยินยอมแล้ว
(2) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
5. การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างจำกัด
5.1 สำนักงานจะใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน และจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของสำนักงานเท่านั้น
5.2 สำนักงานจะดูแลผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานมิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์หรือต่อบุคคลภายนอก
5.3 ในบางกรณีสำนักงานอาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ทั้งนี้ สำนักงานจะต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน
5.4 CEA อาจแบ่งปันข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สาม ที่ปฏิบัติงานให้เรา ซึ่งรวมถึงการสรรหาบุคคล, การตลาด, การสนับสนุนลูกค้า, การให้บริการทางกฎหมาย, การจัดเก็บข้อมูล, การวิเคราะห์และการประมวลผลข้อมูล
5.5 เราอาจแบ่งปัันข้อมูลของคุณที่เป็นปัจจุบันหรือเป็นอนาคตกับบริษัทในเครือ ซึ่งรวมถึงการทำธุรกรรมทางธุรกิจ เช่นการโอนทรัพย์สินทางธุรกิจ, การขายกิจการ, ควบรวมกิจการ, การเข้าซื้อกิจการ, การปรับโครงสร้างองค์กรหรือการขายกิจการส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด หรือทรัพย์สินของเราหรือหุ้นส่วนในบริษัทในเครือของเรา (รวมถึงในกรณีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการล้มละลายหรือกระบวนการที่คล้ายกัน)
6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
สำนักงานกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานและเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 ในกรณีที่ท่านประสงค์จะทราบข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเอง ท่านสามารถมีคำร้องขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานกำหนด เมื่อสำนักงานได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว สำนักงานจะรีบดำเนินการแจ้งถึงความมีอยู่ หรือรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ท่านโดยเร็ว
7.2 หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ท่านสามารถแจ้งเพื่อให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ ในการนี้
7.3 ท่านมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ และกรณีอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
(1) ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตน
(2) ขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้องสมบูรณ์
(3) ขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
(4) ขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
(5) ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งผู้ใช้บริการไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานอาจปฏิเสธสิทธิของท่านได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้อีกต่อไป
8. การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น
8.1 สำนักงานอาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น โดยสำนักงานจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งขอความยินยอม โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
(1) บุคคลหรือหน่วยงานที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
(2) วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
(3) วิธีการในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
(4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเชื่อมโยง
(5) บุคคลผู้มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
8.2 ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น สำนักงานจะจัดทำบันทึกการเชื่อมโยงข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน
8.3 ในกรณีที่สำนักงานใช้หรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังหน่วยงานอื่น สำนักงานจะดำเนินการเท่าที่จำเป็นโดยใช้หรือส่งข้อมูลให้น้อยที่สุด และอาจพิจารณาใช้วิธีจัดทำข้อมูลนิรนาม (Anonymisation) และการแฝงข้อมูล (Pseudonymisation) เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล โดยบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้กับสำนักงานจะต้องจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมตามนโยบายนี้ และไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกดังกล่าวใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากที่สำนักงานกำหนด
8.4 หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล สำนักงานจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการทุกครั้ง
9. การรับผิดชอบของบุคคลซึ่งทําหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานกําหนดให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแล การจัดเก็บ การใช้งานและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยจะปฏิบัติตามประกาศนโยบายและข้อปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) อย่างเคร่งครัด
10. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานจะดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูส่วนบุคคลของท่านนานเท่าที่จำเป็น หรือจนกว่าจะยุติการให้บริการ หรือจนกว่าท่านใช้สิทธิในการยกเลิก เปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิกถอน ระงับ โอนย้าย หรือทำลาย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลเป็นอย่างอื่น ซึ่งทางสำนักงานจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล
สำนักงาน ขอสงวนสิทธิในการทบทวนและปรับปรุงนโยบายนี้ ตามที่สำนักงานเห็นสมควรเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานของสำนักงาน และข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากท่าน สำนักงานจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง หรือประกาศแจ้งเตือนให้ท่านทราบโดยตรง หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม โปรดติดต่อสำนักงานได้ที่ :
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
อาคารไปรษณีย์กลาง เลขที่ 1160 ถนนเจริญกรุง
แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ (66) 2 105 7400
โทรสาร (66) 2 105 7450
เว็บไซต์ https://www.cea.or.th
อีเมล์ dpo@cea.or.th